คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นเป็นหมวด: การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่จำเป็นสำหรับผู้เริ่มต้น

คำศัพท์ ภาษาญี่ปุ่น เป็น หมวด: เคล็ดลับในการเรียนรู้

คำศัพท์ (Vocabulary)

คำศัพท์ (Vocabulary) เป็นสิ่งที่สำคัญในการศึกษาภาษาใดๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอื่นๆ อย่างเช่น ภาษาญี่ปุ่น เรียนรู้คำศัพท์คือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องทำ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจและใช้ภาษาได้มากขึ้น ภาษาญี่ปุ่นมีคำศัพท์จำนวนมากที่สามารถใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณนักเรียนภาษาญี่ปุ่นทุกคน เราจะแบ่งคำศัพท์ตามหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจและจดจำได้ง่ายและรวมคำถามที่พบบ่อยด้วย

แบ่งตามหมวด (Categorization)

การแบ่งคำศัพท์ตามหมวดหมู่เป็นวิธีการที่ดีในการศึกษาภาษาเดี่ยวหรือในกลุ่ม ซึ่งหลายคนอาจพบว่าวิธีการนี้ช่วยให้เรียนรู้ได้ในระยะเวลาที่สั้นและจำได้ยากน้อยขึ้นด้วย โดยการแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น คำสั่ง (Verbs), ประโยคสมบูรณ์ (Full Sentences), วลี (Phrases), คำนาม (Nouns), และคำกริยา (Adjectives) จะช่วยให้คุณรับรู้แนวคิดที่มีอยู่ในภาษาญี่ปุ่น

คำสั่ง (Verbs)

คำสั่ง (Verbs) เป็นคำที่อธิบายการกระทำหรือการเคลื่อนที่ ภาษาญี่ปุ่นมีคำสั่งมากมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น รับ, ส่ง, วิ่ง เป็นต้น โดยคำสั่งในภาษาญี่ปุ่นจะมีลักษณะของการประกอบขึ้นมาจาก คำศัพท์หลัก และตัวช่วยต่างๆ เช่น ด้วยความกระทำ, พฤติกรรม, และสภาวะต่างๆ ดังนั้นในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น คำสั่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

ประโยคสมบูรณ์ (Full Sentences)

ประโยคสมบูรณ์ (Full Sentences) เป็นการนำคำศัพท์และคำสั่งมาเชื่อมต่อกันในลักษณะของประโยคที่สมบูรณ์ เรียนรู้การสร้างประโยคสมบูรณ์ในภาษาญี่ปุ่นเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและมีความหมายในแบบที่ต้องการ

วลี (Phrases)

วลี (Phrases) คือการผสมคำศัพท์หรือคำสั่งหลายๆ คำเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความหมายที่ครบถ้วน ในภาษาญี่ปุ่น วลีมักใช้เพื่อแสดงความรู้สึกหรือประอาการต่างๆ เช่น สวัสดี, ขอบคุณ, ขอโทษ, และอื่นๆ การทราบความหมายและการใช้งานวลีจะช่วยให้คุณเข้าใจภาษาญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งมากขึ้น

คำนาม (Nouns)

คำนาม (Nouns) เป็นคำที่ใช้ในการอธิบายสิ่งต่างๆ เช่น คน, สุนัข, รถ เป็นต้น คำนามในภาษาญี่ปุ่นจะมีรูปแบบแปลกๆ มากกว่าภาษาอื่นๆ ดังนั้นการศึกษาคำนามในภาษาญี่ปุ่นจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจและใช้งานคำศัพท์ได้เหมาะสม

คำกริยา (Adjectives)

คำกริยา (Adjectives) เป็นคำที่ใช้ในการอธิบายคุณสมบัติหรือสภาวะของสิ่งต่างๆ เช่น สวย, ร้อน, หวาน เป็นต้น การเรียนรู้คำกริยาในภาษาญี่ปุ่นจะช่วยให้คุณสามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องและคล่องตัว

คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น สิ่งของ, คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น น่ารักๆ, คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น ฮิรางานะ, คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น อาหาร, ศัพท์ญี่ปุ่น ความหมายดีๆ, ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น, ภาษาญี่ปุ่น ประโยค พูด คุย, ภาษาญี่ปุ่น ความหมายดีๆ สั้นๆคำ ศัพท์ ภาษา ญี่ปุ่น เป็น หมวด

[FAQs]
Q: คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
A: คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นคือคำที่ใช้ในภาษาญี่ปุ่นเพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ

Q: เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นทำไมถึงจำเป็น?
A: เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นมีความสำคัญเพราะจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจและสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้

Q: คำสั่งในภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
A: คำสั่งในภาษาญี่ปุ่นเป็นคำที่ใช้ในการอธิบายการกระทำหรือเคลื่อนที่

Q: ประโยคสมบูรณ์ในภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
A: ประโยคสมบูรณ์ในภาษาญี่ปุ่นเป็นการเชื่อมต่อคำศัพท์และคำสั่งเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความหมายที่สมบูรณ์

Q: วลีในภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
A: วลีในภาษาญี่ปุ่นคือการผสมคำศัพท์หรือคำสั่งหลายๆ คำเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความหมายที่ครบถ้วน

Q: คำนามในภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
A: คำนามในภาษาญี่ปุ่นเป็นคำที่ใช้ในการอธิบายสิ่งต่างๆ

Q: คำกริยาในภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
A: คำกริยาในภาษาญี่ปุ่นเป็นคำที่ใช้ในการอธิบายคุณสมบัติหรือสภาวะของสิ่งต่างๆ

คําศัพท์ภาษาญี่ปุ่น สิ่งของ
คําศัพท์เป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เพียงเราระบุคําศัพท์ให้ถูกต้องและรู้ความหมายของคํานั้นๆ ความรู้ค้นคว้าใหม่ๆ จะมาเร็วขึ้น ในภาษาญี่ปุ่นมีคําศัพท์มากมายที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ในบทความนี้เราจะพูดถึงคําศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของมากที่สุด

คำว่า “สิ่งของ” ในภาษาญี่ปุ่นแปลเป็น “もの” หรือ “物” ถือเป็นคําศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ในการอธิบายสิ่งของทั่วไป เช่น โต๊ะ (つくえ, tsukue) คอมพิวเตอร์ (コンピューター, konpyūtā) หรือเสื้อผ้า (ふく, fuku) เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีคําศัพท์ภาษาญี่ปุ่นอื่นๆ ที่ใช้เพื่อระบุลักษณะของสิ่งของ เช่น ใหญ่ (おおきい, ōkii) เล็ก (ちいさい, chiisai) หรือ ที่รวของที่เกี่ยวข้องกับรูปร่าง เช่น กลม (まるい, marui) ยาว (ながい, nagai) เป็นต้น

นอกจากคำศัพท์ที่ใช้ในการอธิบายสิ่งของ ยังมีคำศัพท์เพิ่มเติมที่ใช้เหมือนแทนสิ่งของบ้าง เช่น เงิน (おかね, okane) ถือเป็นคำว่า “เงิน” ในภาษาไทย หรือ ร้านค้า (みせ, mise) ถือเป็นคำว่า “ร้าน” ในภาษาไทย คำอื่นๆ เช่น ที่พัก (ところ, tokoro) หรือ ของกิน (たべもの, tabemono) ก็มักถูกใช้แทนคำว่า “ที่พัก” และ “อาหาร” ตามลำดับ

เมื่อเรามีคำศัพท์เก็บไว้สมบูรณ์แล้ว การนําไปใช้ในประโยคก็ไม่ยากอีกต่อไป หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้ในการมานี้คือการใช้คำนามเป็นวัตถุนิยม ถ้าเราต้องการพูดถึงความชอบของเราต่อสิ่งของทางครอบครัวเช่น บ้าน อาหาร หรือเครื่องดื่ม เราสามารถใช้คำว่า だいすき (daisuki) หมายถึง “รักมากๆ” เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ในกรณีที่ต้องการแสดงอารมณ์ที่เราเก็บรักษาไว้ สามารถใช้คํานิยม (verb) เข้ามาเสริมประโยคได้ เช่น はじめる (hajimeru) หมายถึง “เริ่ม” หรือ やめる (yameru) หมายถึง “หยุด”

ในทางกลับกัน ถ้าเราต้องการกํากับให้คนอื่นรู้ถึงความไม่ชอบหรือความไม่ถนัดต่อสิ่งของที่เราพูดถึง เราสามารถใช้คำนามเพียงแค่ลดระดับความชอบลงเท่านั้น โดยใช้คำว่า ちょっと (chotto) หรือ すこし (sukoshi) หมายถึง “นิดน้อย” หรือ “เล็กน้อย” อย่างแรกจะแสดงถึงการสำเร็จโดยรวม อย่างหลังแสดงถึงความไม่เสร็จหรือเสร็จแบบเล็กน้อย

นอกเหนือจากคําศัพท์ที่ใช้ในการอธิบายสิ่งของ และคํานามที่ใช้เพื่อระบุความชอบหรือความไม่ชอบของเรา ยังมีคําศัพท์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของสิ่งของ เช่น いれる (ireru) หมายถึง “ใส่” หรือ だす (dasu) หมายถึง “เอาออก”

นอกจากคำศัพท์ในการอธิบายสิ่งของแล้ว คำค้อน “もの” ยังสามารถใช้เพื่อแสดงคําขวัญ (wisdom) และความสำคัญ เช่น 人のものを大切にしましょう (ひとのものをたいせつにしましょう, hito no mono o taisetsu ni shimashō) หมายถึง “ให้อันตรายเงียบอยู่กับทุกคน” หรือ 代金はお預かりいたします (だいきんはおあずけいたします, daikin wa oyakari itashimasu) หมายถึง “เงินให้เก็บไว้ก่อนนะ”

เชื่อว่าในขณะนี้คุณเริ่มเข้าใจและรู้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับคําศัพท์ภาษาญี่ปุ่นเกี่ยวข้องกับสิ่งของแล้ว หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าลังเลที่จะติดต่อมาถามได้เช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย

1. ใช้คำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของแค่ไหน?
– ใช้คำว่า “もの” หรือ “物” ในภาษาญี่ปุ่นในการอธิบายสิ่งของทั่วไป

2. วิธีใช้คำนามเป็นวัตถุนิยมเมื่อพูดถึงความชอบหรือความไม่ชอบต่อสิ่งของคืออะไร?
– สามารถใช้คำนามเพื่อระบุความชอบหรือความไม่ชอบของเราต่อสิ่งของได้ เช่น “だいすき” (daisuki) หมายถึง “รักมากๆ” หรือ “ちょっと” (chotto) หรือ “すこし” (sukoshi) หมายถึง “นิดน้อย” หรือ “เล็กน้อย”

3. เราสามารถใช้คำอื่นในการแทนคำว่า “สิ่งของ” ได้หรือไม่?
– ใช้ได้ ยังมีคำอื่นที่ใช้แทนคำว่า “สิ่งของ” และมีความหมายใกล้เคียง เช่น “เงิน” หมายถึง “เงิน” หรือ “ร้านค้า” หมายถึง “ร้าน”

4. มีคำศัพท์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของสิ่งของในภาษาญี่ปุ่นไหม?
– ใช่ คำศัพท์เช่น “いれる” (ireru) หมายถึง “ใส่” หรือ “だす” (dasu) หมายถึง “เอาออก” ใช้เพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของสิ่งของ

——————————
คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ โดยคำศัพท์หลากหลายที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น โต๊ะ (つくえ, tsukue) คอมพิวเตอร์ (コンピューター, konpyūtā) หรือเสื้อผ้า (ふく, fuku) เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีคำศัพท์อื่นๆ ที่ใช้เพื่อระบุลักษณะของสิ่งของ เช่น ใหญ่ (おおきい, ōkii) เล็ก (ちいさい, chiisai) หรือที่รวมถึงรูปร่าง เช่น กลม (まるい, marui) ยาว (ながい, nagai) เป็นต้น

ยังมีคำศัพท์เพิ่มเติมที่ใช้แทนสิ่งของบ้าง เช่น เงิน (おかね, okane) หมายถึง “เงิน” หรือร้านค้า (みせ, mise) หมายถึง “ร้าน” คำอื่นๆ เช่น ที่พัก (ところ, tokoro) หรือของกิน (たべもの, tabemono) ก็มักถูกใช้แทนคำว่า “ที่พัก” และ “อาหาร” ตามลำดับ

นอกจากคำศัพท์ที่ใช้ในการอธิบายสิ่งของ ยังมีวิธีการใช้ในประโยคหลากหลาย เช่น การใช้คำนามเป็นวัตถุนิยม ผ่านคำว่า だいすき (daisuki) เพื่อแสดงความชอบ ซึ่งหมายถึง “รักมากๆ” หรือ การใช้คำนิยมเข้ามาเสริมประโยค เช่น はじめる (hajimeru) หมายถึง “เริ่ม” หรือ やめる (yameru) หมายถึง “หยุด”

นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้คำศัพท์เพื่อแสดงความไม่ชอบหรือความไม่ถนัดต่อสิ่งของก็ได้ เช่น ちょっと (chotto) หรือ すこし (sukoshi) ซึ่งหมายถึง “นิดน้อย” หรือ “เล็กน้อย” ส่วนคำเดียวกันในเชิงบวกจะแสดงถึงความสำเร็จโดยรวม ส่วนในเชิงลบจะแสดงถึงความเสร็จแบบเล็กน้อย

นอกจากคำศัพท์ที่ใช้ในการอธิบายสิ่งของ และคำนามที่ใช้เพื่อระบุความชอบหรือไม่ชอบ ยังมีคำศัพท์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของสิ่งของอีกด้วย เช่น いれる (irer

คําศัพท์ภาษาญี่ปุ่น น่ารักๆ

คําศัพท์ภาษาญี่ปุ่น น่ารักๆ เป็นหนึ่งในเนื้อหาที่นักเรียนหรือผู้ที่สนใจในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังควรที่จะต้องศึกษาให้ละเอียด เนื่องจากภาษาญี่ปุ่นมีคําศัพท์ที่น่ารักๆ ซึ่งมีความหมายที่น่าสนใจและไม่ซ้ำซ้อนกับภาษาไทย ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับคําศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่น่ารักๆ บางคําศัพท์คงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกความหมายอื่นที่น่าสนใจให้ได้รู้จัก

คำว่า “ありがとう” (Arigato) แปลว่า “ขอบคุณ” เป็นคำที่นักท่องเที่ยวหรือคนไทยที่ต้องการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นต้องควรจดจำเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งแสดงถึงความสุภาพและการนับถือในการขอบคุณในภาษาญี่ปุ่น

เรายังมีคำว่า “すみません” (Sumimasen) แปลว่า “ขอโทษ” ใช้ในกรณีที่เราต้องการขอโทษหรือแสดงความเสียใจ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องการผ่านผู้คนแล้วเราเดินผ่านมากะที่ว่างอยู่ เราสามารถสามารถใช้คำว่า “すみません” (Sumimasen) เพื่อขออนุญาตเดินผ่านได้เลย

นอกจากนี้ยังมีคำว่า “おはようございます” (Ohayou gozaimasu) ที่แปลว่า “สวัสดีตอนเช้า” ที่ใช้กันในการทักทายในตอนเช้าและถือว่าเป็นคำที่น่ารักและสุภาพที่แสดงถึงความเป็นกันเองและใส่ใจ

อีกคำญี่ปุ่นหนึ่งที่น่ารักคือ “おやすみなさい” (Oyasumi nasai) แปลว่า “ลาก่อน” ซึ่งใช้ในการลาตัวก่อนเข้านอนสำหรับการทักทายกันในตอนกลางคืน รู้ด้วยกันหรือไม่ว่านักเรียนหรือประชาชนธรรมดาในญี่ปุ่นจะใช้คำนี้ในการเขียนเมล์และแชทหรือไม่ก็ตาม ซึ่งแสดงถึงความสุภาพในการแสดงความใส่ใจต่อกันเสมอ

อีกคำที่น่ารักและมีความหมายน่าสนใจคือ “わたしはあなたを愛しています” (Watashi wa anata o aishiteimasu) ที่แปลว่า “ฉันรักคุณ” โดยคำว่า “わたし” (Watashi) แปลว่า “ฉัน” ใช้ในบทสนทนาอยู่บ่อยๆในภาษาญี่ปุ่น ในขณะที่คำว่า “あなた” (Anata) เป็นคำเรียกบุคคลในคนที่ทำให้ภาษาญี่ปุ่นมีความน่ารักและโรแมนติกมากขึ้น

รวมถึงคำหวานๆแบบ “だいすき” (Daisuki) ที่แปลว่า “รักมาก” ถ้าหากคุณต้องการบอกคนในทีมคุณหรือคนในครอบครัวว่าคุณรักเขาอย่างมาก ค่ายสักเขาว่าท่านเป็นภาษาญี่ปุ่น คุณสามารถใช้คำ

เราก็ยังมีคำที่น่ารักและเกี่ยวกับอาหาร เช่น “いただきます” (Itadakimasu) แปลว่า “ขอรับประทาน” ที่ใช้ก่อนเริ่มการรับประทานอาหาร เป็นคำที่ได้ยินบ่อยๆในบ้านครัวญี่ปุ่น

ในภายหลังเราก็มีคำว่า “ごちそうさまでした” (Gochisousama deshita) แปลว่า “ขอบคุณสำหรับอาหาร” ที่ประชาชนในญี่ปุ่นจะใช้เช่นกันหลังจากการรับประทานอาหารเสร็จสิ้นแล้ว ในการพูดคํานี้จะแสดงถึงความสุภาพและการนับถือเต็มที่ในการรับประทานอาหารของประชาชนในญี่ปุ่น

แม้ว่าคําว่า “かわいい” (Kawaii) จะมีความหมายว่า “น่ารัก” เหมือนกับภาษาไทย แต่แน่นอนว่าคำว่า “かわいい” (Kawaii) เป็นคำที่นักท่องเที่ยวหรือคนทั่วไปที่สนใจภาษาญี่ปุ่นต้องบอกภาษาไปเรื่อยเท่านั้น

แม้คำศัพท์เหล่านี้จะเป็นแต่คำว่าพื้นฐานๆในภาษาญี่ปุ่นที่น่ารักและไม่ซ้ำซ้อนแต่ละคําก็สามารถนําไปใช้ในประเด็นที่น่าสนใจต่างๆ ของแต่ละคนได้

ถึงแม้กับคำศัพท์ที่รู้กันแล้ว คงจะมีคำถามบางอย่างเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น น่ารักๆ ซึ่งเราจะมาตอบคำถามดังต่อไปนี้

คำถามที่ 1: ฉันจะเรียนรู้คําศัพท์ภาษาญี่ปุ่นด้วยวิธีไหนให้ได้ผลดี?

การเรียนรู้คําศัพท์ภาษาญี่ปุ่นจะอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนสำหรับบางคน แต่วิธีที่ผ่านมามีอยู่หลายวิธี เช่น อ่านหนังสือหรือเรียนกับครูภาษาญี่ปุ่น ในยุคที่เราอยู่ตอนนี้ การใช้เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นสามารถช่วยในการเรียนรู้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดก็คือการฝึกฝนและใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารทุกวันโดยตรง

คำถามที่ 2: ฉันควรเรียนคำศัพท์เท่าไหร่ในแต่ละวัน?

นักเรียนหรือผู้ที่สนใจในการเรียนรู้มีความแตกต่างกันในการรับรู้ความจำเร็วและการเรียนรู้ หากคุณได้รับรู้คำศัพท์ได้เร็วก็ควรหันไปเรียนคำศัพท์เพิ่ม ถ้าคุณรู้สึกว่าบางคำศัพท์ยังไม่คุ้นเคยมากพอ คุณก็ควรเรียนรู้ในปริมาณที่พอควบคุมได้ การใช้เวลา 15-30 นาทีต่อวันก็เพียงพอที่จะฝึกฝนคำศัพท์ใหม่ๆในประจำวัน

คำถามที่ 3: มีแหล่งเรียนรู้ใดบ้างที่สามารถช่วยฉันเรียนรู้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นได้ดี?

มีแหล่งเรียนรู้หลายแหล่งในอินเทอร์เน็ตที่สามารถช่วยคุณเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้ ได้แก่ Duolingo, Memrise, และ Anki เป็นต้น แอพพลิเคชั่นเหล่านี้มีเนื้อหาคำศัพท์ที่สอดคล้องกับระดับความเข้าใจของคุณและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ นอกจากนี้คุณยังสามารถสมัครเรียนแบบออนไลน์กับสถาบันการศึกษาหรือศูนย์ภาษาญี่ปุ่นในประเทศของคุณได้อีกด้วย

คำถามที่ 4: ฉันจะใช้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?

เพื่อให้สามารถใช้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรฝึกใช้คำศัพท์ที่เรียนรู้ใหม่ในบทสนทนาส่วนตัว ลองใช้คำศัพท์ในการพูดหรือเขียนเมล์ประจำวันของคุณ ในการติดต่อกับคนญี่ปุ่น คุณก็สามารถพูดคำจากคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่เคยเรียนมาก่อนหน้านี้ได้ นอกจากนี้ ความรู้คำศัพท์ที่จะเกี่ยวข้องกับงานหรือความสนใจของคุณย่อมจะช่วยให้คุณสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่ 5: คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นหลายคำดูเหมือนกัน ฉันควรทำอย่างไรเพื่อไม่สับสน?

ในภาษาญี่ปุ่นมีคำศัพท์ที่มีการอ่านเหมือนกับคำอื่นๆ ควรที่จะโฟกัสไปที่ความแตกต่างของคำและรูปแบบของคำใช้ตามบทบาทของพวกเขาคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกัน ให้ลองรับฟังและใช้ในบทส

พบ 26 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คำ ศัพท์ ภาษา ญี่ปุ่น เป็น หมวด.